|
|||||||
เรื่อง แนวทางการออกแบบบ้าน อาคารและมุมมองส่วนตัว | |||||||
ว่าด้วยเรื่องบ้านๆ อาคารๆก่อน ถือว่าเป็นงานถนัดอย่างหนึ่งของผมเลย
เพราะตรงกับที่เรียนมาจนได้ปริญญา
2ใบโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณค่าของความคิดในสายวิชาชีพนี้นั้น คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันนัก เพราะเป็นเรื่องของค่าความคิดที่จับต้องไม่ได้.. ทั้งที่จริงๆแล้วมันคือหัวใจสำคัญของการมีบ้านสวยๆในฝันของทุกคนเลย บ้านที่ลงตัวกับพื้นที่ สภาพแวดล้อมและออกมาจากตัวเราเองจริงๆ สวย ใช้งานได้ และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการออกแบบที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างเช่นในเรื่องของอาคารประหยัดพลังงาน อาคารอัจฉริยะ (smart home) หรือในเรื่องสไตล์ของอาคารตามที่เราชอบ เช่นในรูปแบบ Modern ที่ดูทันสมัยแต่ลงตัวกับสภาพภูมิอากาศแบบร้อนแบบไทย |
|||||||
![]() ![]() |
|||||||
ดังตัวอย่างในรูปด้านบน มันไม่ใช่อาคารสไตล์ Modern ธรรมดาที่เน้นกระจกและร้อน แต่มันเป็นอาคารที่ประยุกต์ให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศแบบไทยๆ ในโหมดอาคารประหยัดพลังงาน ที่มีกระจกโปร่งแต่ไม่ร้อนได้ รวมถึงเป็นอาคารแนวยาว ตามขนาดของที่ดินที่แนวยาว ที่มีขนาดที่ดินแค่ 100 ตรว.นิดๆเท่านั้น ซึ่งเราไม่มีทางหาแบบบ้านที่ลงตัวแบบนี้ได้ในแบบบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านสั่งสร้างที่ใช้แบบสำเร็จทั่วๆไปแน่นอน อีกทั้งบ้านหลังนี้ยังคำนิงถึงเรื่อง space และมุมมองภายในบ้าน ที่ออกแบบให้โปร่งโล่ง กลมกลืนเชื่อมโยงระหว่างspace ภายในและภายนอกที่เป็นในส่วนของสวน รวมถึงได้บรรยากาศที่ลงตัวกับพื้นที่ ที่ถึงแม้จะมีขนาดไม่กว้างมากก็ตาม | |||||||
กลับมาในเรื่องของการใช้ความคิดในการออกแบบบ้าง
ขอยกตัวอย่างในการออกแบบในเรื่องทั่วๆไปก่อน คนที่ออกแบบเก่งๆ
คือคนที่รู้จักนำวัสดุพื้นบ้าน ราคาไม่แพงแต่มาใช้ไอเดีย ความคิดทำออกมาให้สวย
บางคนใช้แต่วัสดุๆแพงๆ แต่ไม่มีหัวในการdesign
ก็ออกมาเท่านั้นแล..... แต่ก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ บางทีคิดงาน คิดแบบ คิดลวดลาย คิดวิธีการแทบตาย แต่บางท่านก็ไปตีราคางานค่าความคิดของเขาแค่ต้นทุนอิฐ ต้นทุนปูน แล้วบอกว่า คิดแพง หรือเอางานไปเทียบกับงานช่างตาสีตาสา แล้วบอกแพง ไม่บางท่านก็ทำด้วยตัวเองด้วยต้นทุนซึ่งต่ำกว่าทุนจริงๆเพราะไม่มีค่าโสยหุ้ยต่างๆ ที่ผู้ประกอบการเขามี (แต่เขาทำออกมาสวยหรือไม่ก็คงอีกเรื่อง) แล้วเอาราคาที่ตัวเองทำต่ำกว่าต้นทุนนั้นไปเป็นตัวเทียบกับคนที่เขาทำเป็นอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องว่าเขาแพง ทั้งที่ไอเดีย มาตรฐาน คุณภาพงาน ต้นทุน ความรับผิดชอบ ก็ต่างกัน หรือบางท่านมองจากเรื่องราคาเป็นหลักเอาแต่ของราคาถูกๆที่สุด เอาน่ะคนนี้คิดถูกจ้างคนนี้ดีกว่า จนลืมไปว่า ค่าความคิด ความตั้งใจ ฝีมือและประสบการณ์ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนทำถูกๆจริงๆ แต่ทำได้ดีหรือไม่ล่ะ ? คุณภาพงานที่ออกมาดีไหมล่ะ? ผลงานที่เขาเคยทำนั้นจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี... ว่าเขาทำออกมาได้สมราคาไหม ? คิดๆก็แปลกใจ ทำไมคนเราซื้อสี ซื้อกระดาษ ซื้อผ้าใบ มาวาดรูปได้เหมือนๆกัน แต่ทำไมบางคนวาดภาพขายได้ภาพเป็นแสนเป็นล้าน แต่บางคนวาดแล้วให้ฟรีๆก็ยังไม่มีใครเอา... อย่างภาพข้างล่าง วัสดุก็ไม่ได้พิสดารและแพงอะไรเลย... แต่ใช้คุณค่าของความคิดมาทำให้มันสวยขึ้นมา |
|||||||
![]() |
|||||||
เอ..สังคมส่วนใหญ่เป็นแบบนี้แล้วเราทำไงดี
? ถ้าขายความคิดที่จับต้องไม่ได้อย่างเดียวเอาตัวไม่รอดแน่ๆ
ดังนั้นเลยต้องผันปรับตัวเองไปทำหลายqสิ่งที่จับต้องได้ในวิชาชีพที่ใกล้เคียงกันและพัฒนาไปสู่อาชีพอื่นๆที่เราทำได้และสุจริต
นอกเรื่องไปนานน ขอกลับเข้าเรื่องบ้านกับอาคารดีกว่า.. ถึงเป็นแบบนั้นก็เถอะ แต่ก็ยังมีอีกหลายๆท่านที่เห็นและให้ความสำคัญของค่าความคิดพวกนี้ ทำให้เราไม่ได้ล่ะทิ้งในสิ่งที่ชอบและเรียนมา และยังมีงานด้านนี้อยู่ตลอดๆ ในหลายๆรูปแบบ หลายๆสไตล์ แต่ทุกสไตล์ จะให้ความสำคัญสอดแทรก บรรยากาศ ต้นไม้ ธรรมชาติ เรื่องของสวนสวยๆ ลงไปด้วยพร้อมๆกันในการออกแบบทีเดียว (แน่นอนเพราะเป็นconcept งานผมนี่นา) ในรูปแบบ Tropical สไตล์ที่เหมาะกับเมืองไทย เช่นรูปข้างล่าง เป็นบ้าน 3ชั้น ที่เจ้าของบ้านต้องการอารมณ์แบบรีสอร์ท |
|||||||
![]() |
|||||||
อย่างบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์บาหลี สร้างขึ้นให้ต่อเนื่องจากบ้านหลังใหญ่ ที่เน้นบรรยากาศต่อเนื่อง และเข้ากับธรรมชาติที่สำคัญ ไม่ร้อน และประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน | |||||||
![]() |
|||||||
หรือบ้านเก่าอายุเกือบๆ
20 ปี เองอย่างรูปด้านล่าง ก็สามารถ Renovate
ออกแบบปรับปรุงบ้าน ให้ดูดี ร่วมสมัยและมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
โดยการเพิ่มบ้านชั้นเดียว ปรับปรุงการใช้งานจองบ้านเดิม ตกแต่งผนังและกรอบอาคารใหม่
แล้วสร้างบรรยากาศรอบๆ โดอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้
ก็ทำให้ดูดีและมีบรรยากาศหน้าอยู่มากขึ้นเหมือนได้บ้านใหม่แล้วเลยล่ะ...
ส่วนใหญ่ เทรน
ใหม่ๆมีหลายสไตล์ แนวที่คิดว่าเหมาะกับเมืองไทยจริงๆ ก็คือบ้านสไตล์
tropical
นี่แหละที่เหมาะที่สุด เพราะเข้ากับสภาพอากาศแบบร้อน ชื้น แต่ถ้าเราอยากได้แบบ
Modern ล่ะ? ก็เป็นแนว Tropical
Modern สิ้ เอาของเมืองนอกเมืองนามาทั้งที
เราก็ต้องรู้จักปรับประยุกต์ให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรม และลักษณะการใช้ชีวิต
ของเมืองไทยเราด้วย ลอกมาทั้งดุ้นแล้วเอามาใช้เลยนั้น มันง่ายเกินไปครับ....
|
|||||||
![]() |
|||||||
ส่วนภาพด่านล้างนี้ เป็นมุมหนึ่งของร้านกาแฟ ที่ออกแบบให้ดูทันสมัย แต่มีบรรยากาศที่น่านั่งและอบอุ่น ที่ลงตัวกับภูมิอากาศแบบไทยๆเช่นกัน | |||||||
![]() |
|||||||
ส่วนงานออกแบบบ้านอื่นๆของผมที่น่าสนใจ เช่น บ้านแบบทั่วๆไปในลักษณะคลาสสิค
ก็สามารถทำได้เช่นกัน บ้านสไตล์อื่น รวมถึงอาคารอื่นๆ
จะนำมาอัพเดทลงเวปของผมทีหลังแล้วกันครับ
อีกคำถามนึงที่เจอกันบ่อยๆ ค่าออกแบบอาคารล่ะ
เขาคิดกันอย่างไร?
ถ้างานราคายิ่งสูง
% ค่าออกแบบก็จะลดลั่นลงไปตามราคาครับ |
|||||||
![]() |
|||||||
แล้วงานที่ราคาต่ำๆถูกๆกว่ามาตรฐานล่ะเขาทำได้ไง?
งานราคาถูกๆกว่ามาตรฐานคนทำจะตั้งใจทำเหรอครับ ? ง่ายๆเขาก็ทำงานให้น้อยลง คิดน้อยๆ รับผิดชอบน้อยๆ ทำงานเร็วๆ เพราะทำหยาบๆ ไม่ละเอียด บางทีเขาเอางานเก่าๆ หรือเอาแบบสำเร็จรูปที่หาได้ทั่วไปมาจับยัดลงในที่ดินของคุณโดยไม่ได้คิดอะไรให้เลย เขียนอย่างเดียวจนจบแต่ไม่คำนึงเรื่องอื่นที่จะมีปัญหาตามมาภายหลัง ถึงมีปัญหาเขาก็ไม่อยู่แล้วเพราะรับเงินไปหมดแล้ว! หรือบางท่านอยากจ้างคนจบใหม่ๆ มาออกแบบให้เพราะคิดว่าค่าใช้จ่ายถูกกว่า? ใช่ครับถูกกว่าจริงๆ แต่อย่าลืมว่าคนจบใหม่ๆนั้นยังไม่มีประสบการณ์ ซึ่งประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่แพ้ความรู้ในเชิงวิชาการ แล้วคุณกล้าไว้ใจเขาให้ออกแบบทำบ้านให้เหรอครับ ไม่ได้ดูถูกน้องๆที่จบใหม่เพราะตัวเองก็เคยผ่านทางนี้มาก่อนทำให้รับรู้ได้เลยว่าประสบการณ์นั้นมีค่ามากๆจริงๆ เชื่อเถอะครับว่าสถาปนิกเก่งๆ ออกแบบบ้านได้สวยๆ มีความรับผิดชอบดีๆ เขาจะไม่ยอมลดค่าตัว ลดค่าวิชาชีพให้ต่ำกว่าเรทมาตรฐานของค่าวิชาชีพ แน่นอน ซึ่งสิ่งที่จะพิสูจน์ฝีมือว่า สมราคาและมีคุณภาพหรือไม่นั้น คือผลงานที่ผ่านมาของเขานั่นเอง.... สำคัญเราต้องรู้จักเสียในสิ่งที่ควรเสีย “ประหยัดได้ แต่อย่างกครับ" แล้วงกต่างกับประหยัดอย่างไร? ประหยัดคือ "ไม่ยอมเสียในสิ่งที่ไม่ควรเสีย แต่ยอมเสียในสิ่งที่ควรเสีย" ส่วนงกนั้น "คือการไม่ยอมเสียในสิ่งที่ควรเสียครับ" ซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะมีหรือไม่มีเงิน คนมีเงินมากๆก็งกได้ครับ อยู่ที่ว่าคุณจะเข้าใจว่าสิ่งใดควรเสียมากกว่าครับ บ้านที่ดี สื่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งมาจากคุณค่าของการออกแบบนะครับ บ้านหลังนึงชีวิตเราจะมีได้สักกี่หลังกัน? นั่นคือสิ่งที่คุณควรจะเสียถ้าคุณต้องการสถาปนิกมาออกแบบบ้านที่ดีๆให้ครับ ส่วนเรื่องงบตรงนี้นั้นเข้าใจครับว่าแต่ล่ะท่านมีปัจจัยที่ไม่เท่ากัน บางท่านอยากจะสร้างบ้านแต่ไม่มีงบให้กับค่าออกแบบ ถ้าท่านถ้าอยากจะได้แบบที่ไม่เสียค่าออกแบบ ก็มีทางเลือกครับ คือคงต้องหาแบบบ้านตามหนังสือต่างๆรวมแบบบ้านต่างๆ หรือแบบบ้านตามบ้านจัดสรรในสไตล์ที่คุณชอบ หรือแบบที่เขาแจกแบบฟรีๆ มาใช้ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมาย แล้วค่อยไปจ้างให้ผู้รับเหมาสร้างตามแบบนั้นหรือให้เขาเขียนแบบให้ (ซึ่งไม่ใช่การออกแบบ) และท่านเองอาจคิดว่า นี่ไงไม่เห็นจะต้องเสียค่าออกแบบเลย? แต่...? ไม่จริงเลย ผู้รับเหมาเองเขาก็ต้องไปจ้างคนอื่นเขียนแบบให้ต่ออีกที เมื่อมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเขาก็เอาทุนในค่าแบบนั้นเอามาบวกในราคาบ้านท่านเรียบร้อยแล้ว โดยที่ท่านไม่ทราบ แล้วอาจบอกกับท่านว่าไม่คิดค่าออกแบบ ซึ่งนอกจากนั้นโดยบวกโดยไม่ทราบแล้ว ท่านก็จะได้บ้านแบบทั่วๆไป ที่ไม่แตกต่าง ไม่มีเอกลักษณ์ และไม่ลงตัวกับสภาพที่ดินและสิ่งแวดล้อม และไม่ได้ออกมาจากความต้องการของคุณ100% เพราะมันจะไม่ใช่แบบบ้านที่ดีที่สุดสำหรับคุณและที่ดินคุณแน่นอนครับ ส่วน บ.ที่เขารับสร้างบ้านล่ะ? เขามีแบบสำเร็จรูปนี่นา? ไม่ต้องเสียค่าออกแบบด้วย เลือกแบบจากเขาแล้วไปจ้างเขามาสร้างน่าจะถูกและคุ้มกว่านะ? แต่เชื่อหรือไม่ครับ! คุณไปจ้างสถาปนิกออกแบบ + ไปหาผู้รับเหมามาสร้างให้คุณเอง คุณสามารถสร้างได้ราคาต่ำกว่าถูกกว่าบ.ที่เขารับสร้างบ้านเสียอีก!!... เพราะคุณไม่ต้องโดนเขาบวกในค่ากำไรในส่วนของเขารับอีกทีน่ะสิครับ บ.แบบนี้หลายๆแห่งก็จ้างผู้รับเหมารายย่อยมาเป็นซับให้ทั้งนั้นแหละครับ บ้านของผู้ที่มีรสนิยมๆ ที่เขาต้องการบ้านที่ลงตัวส่วนใหญ่เขาจ้างสถาปนิกออกแบบให้ทั้งนั้นครับ ซึ่งตรงนี้ต้องอยู่ที่คนออกแบบด้วย บ้านที่ออกแบบมาจากสถาปนิก ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา มันขึ้นกับความรู้ ประสบการณ์และฝีมือของสถาปนิกแต่ล่ะท่านด้วย อย่าว่าแต่เรื่องบ้านเลย เรื่องอาคารขนาดใหญ่ก็สำคัญ และสามารถเกิดปัญหาขึ้นได้ ถ้าตอนออกแบบแล้ว ไม่ได้คำนึงถึงปัญหาเรื่องความร้อนในบ้านเมืองเราได้เช่นกัน |
|||||||
![]() |
|||||||
เดิมอาคารสำนักงานแห่งนี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นอาคารสมัยใหม่
ทำให้มีกระจกเป็นส่วนประกอบหลักของอาคาร
และเป็นด้านที่เป็นกระจกหลักนั้นได้รับแสงแดดโดยตรงเกือบตลอดวัน
(ทิศตะวันตกเฉียงใต้)
ทำให้มีปัญหาเรื่องความร้อนเข้ามาทางผนังกระจก
จนทำให้พนักงานที่ทำงานอยู่รู้สึกร้อน(ขนาดมีม่านอีกชั้น)
และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อาคารนี้มีการสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมากจากเครื่องปรับอากาศ
แล้วเจ้าของอาคารก็ติดต่อให้ทางเราเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้.... ซึ่งเป็นอีกวิชาชีพที่เราทำเช่นกันในการ renovate บ้านและอาคารเก่า แต่ในเคสนี้เป็นการการแก้ปัญหาความร้อนที่เข้ามาภายในอาคารและลดการใช้พลังงานของอาคาร แนวทางการออกแบบแก้ไขแบบง่ายๆและเหมาะสมลงตัวคือ คือการทำแผงบังแดดที่ต้องดูสวยงามและทันสมัยเข้ากับอาคาร ตลอดจนขนาดพื้นที่และการยื่นของแผงบังแดดนั้น ควรยื่นออกไปเท่าไหร่ถึงจะช่วยลดความร้อนให้แก่อาคารได้และคุ้มกับการลงทุนมากที่สุด เพราะวัสดุตัวนี้มีราคาต่อตารางเมตรสูง ดังนั้นข้อมูลต้องสำคัญเพื่อให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด
1.
แนวทางการออกแบบแก้ไข
2.ประสิทธิภาพการป้องการความร้อนเข้าอาคาร |
|||||||